ผู้บริหารระดับสูง บริษัทพานาโซนิค หารือรัฐมนตรีสุริยะฯ แจงข่าวดีเตรียมขยายโรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จ.ขอนแก่น พร้อมสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม จ.สมุทรปราการ หนุนอุตสาหกรรมอนาคต
กรุงเทพฯ : เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา นายอิโตะ ฮิเดคาสึ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เข้าพบและหารือกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทพานาโซนิคทั่วโลกในภาพรวมที่บริษัทกำลังดำเนินอยู่ในทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรวมฐานการผลิตของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับ Economy of Scale ความสามารถในการทำกำไร และการแข่งขัน ซึ่งเป็นนโยบายการปรับกลยุทธ์ทั่วโลก
โดยในส่วนของประเทศไทย บริษัทจะเน้นบทบาทในการเป็นฐานการผลิตในธุรกิจมูลค่าสูงที่เติบโต โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตหลักของ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งในรถยนต์ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทกำลังดำเนินการลงทุนเพิ่มเติมใน 2 โครงการคือ
1. โครงการขยายโรงงานที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเพิ่มสายการผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (Device) ของโรงงาน พานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
2. โครงการสร้างคลังสินค้าสำหรับรองรับการผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ ที่โรงงาน บ. พานาโซนิค ออโต้โมทีพ ซิสเต็มส์ เอเชีย แปซิฟิต จำกัด จ. สมุทรปราการ
ซึ่งการลงทุนดังกล่าว จะเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องและช่วยสนับสนุน การก้าวไปสู่ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายหนี่งที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาล
สำหรับในส่วนของสายการผลิตตู้แช่เย็น ซึ่งบริษัทได้มาจากบริษัทซันโย ในช่วงที่มีการควบรวมกิจการ บริษัทจะนำไปรวมไว้ที่ประเทศจีน เพื่อเปิดทางให้กับการลงทุนในอุตสาหกรรมมูลค่าสูง และอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทกำลังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในไทยต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จาก การที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทก็เพิ่งได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ Modular House ธุรกิจเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต กับ Smart home solution โดยได้เปิดบ้านตัวอย่าง Experience Center ซึ่งเป็นการจับมือธุรกิจร่วมกับบริษัทสยามสตีล
และกำลังริเริ่มเตรียมการก้าวเข้าสู่ทำตลาดอุปกรณ์ระบบ Smart Factory ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับผู้ประกอบการ SME ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม